ทำไมการสั่งของจากญี่ปุ่นถึงเป็นเรื่องท้าทาย?
ปัญหาของใครหลายคนที่อยากได้ของจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้ามือสองใน Mercari, ฟิกเกอร์จาก Yahoo Auctions, หรือของใช้แบรนด์ญี่ปุ่นแท้ ๆ แต่ติดปัญหาหลัก ๆ คือ
- ไม่มีบัตรเครดิตญี่ปุ่น
- ร้านไม่ส่งออกนอกประเทศ
- ค่าขนส่งแพงและซับซ้อน
- ภาษีนำเข้าที่ต้องเสียเวลาเคลียร์เอง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่บริการ ตัวกลาง (Proxy Service หรือ Purchasing Agent) เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ทำหน้าที่ “ซื้อแทน + ส่งต่อ” ให้คุณได้ของญี่ปุ่นง่ายขึ้น
ตัวกลางช่วยเหลืออะไรคุณได้บ้าง ?
ตัวกลางคือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคุณกับร้านญี่ปุ่น ข้อดีคือคุณสามารถเข้าถึงตลาดญี่ปุ่นได้ครบ ทั้ง Yahoo Auction, Mercari, Rakuten ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์เล็ก ๆ โดยไม่ต้องปวดหัวกับการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นหรือระบบการจ่ายเงิน โดยตัวกลางจะช่วยทำหน้าที่
- ซื้อของแทนในเว็บญี่ปุ่น
- จ่ายเงินในสกุลเยน
- รับของเข้าคลังและรวมกล่อง
- ส่งต่อจากญี่ปุ่นออกมาไทย
เจาะลึกตัวกลางยอดนิยม สั่งของจากญี่ปุ่น มาไทย
1. FujiKing
ก็เป็นอีกหนึ่งตัวกลางช่วยให้การนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมาไทยเป็นเรื่อง สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าคุณจะซื้อสินค้าจาก Mercari, Yahoo Auction, Rakuten หรือเว็บญี่ปุ่นอื่น ๆ ดูแลให้ครบจนถึงมือ
✅ จุดเด่น :
- มี บริการปิดตู้ ส่งแบบรวมลัง จากญี่ปุ่นมาไทย ทำให้ค่าขนส่งถูกลงมาก
- ระบุค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายชัดเจน
- เคลียร์ภาษีให้ครบ ไม่ต้องปวดหัวกับเอกสารหรือโดนเรียกเก็บเพิ่ม
- ทีมงานไทยดูแล ให้คำปรึกษาเป็นกันเอง สื่อสารง่าย
- ครบวงจรทั้ง ซื้อ, ฝาก, รวมกล่อง, ส่งออก → ทุกขั้นตอนในที่เดียว
- ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆ ยิบย่อย นอกเหนือจากที่แจ้งกับลูกค้า
2. Buyee
✅ จุดเด่น: ใช้ตรงกับ Yahoo Auctions, Mercari, Rakuten ได้ทันที
❌ จุดด้อย: มีค่าธรรมเนียมหลายชั้น เช่น ค่าบริการพื้นฐาน, ค่าต่ออายุการฝาก, ค่าบริการเสริมอื่นๆ
3. ZenMarket
✅ จุดเด่น: ค่าธรรมเนียมคงที่ 300 เยนต่อออเดอร์ ชัดเจน
❌ จุดด้อย: ไม่รวมบริการเคลียร์ภาษี ทำให้ลูกค้าต้องหาวิธีจัดการเองตอนของถึงไทย
4. FromJapan
✅ จุดเด่น: อินเตอร์เฟซใช้ง่าย มีหลายวิธีการจัดส่ง
❌ จุดด้อย: ค่าธรรมเนียมแรกเข้าค่อนข้างสูง
5. White Rabbit Express
✅ จุดเด่น: ทำหน้าที่เหมือน Personal Shopper เหมาะกับการซื้อจากร้านเล็กหรือร้านที่ไม่ดัง
- ❌ จุดด้อย: ค่าบริการต่อชิ้นสูง ไม่เหมาะสำหรับการซื้อหลายชิ้นหรือสินค้าจำนวนมาก
⚠️ ข้อสังเกต: หากเลือกส่งทางเรือ อาจใช้เวลานานกว่า Air แต่ได้ความประหยัดมากกว่า
ตารางเปรียบเทียบตัวกลางญี่ปุ่น
วิธีคำนวณค่าขนส่ง แล้ววิธีไหนคุ้มสุด?
หากคุณสั่งซื้อของชิ้นเล็ก ๆ เป็นครั้งคราว อาจใช้บริการอย่าง Buyee หรือ ZenMarket ได้
แต่ถ้าคุณต้องการ ความครบวงจร ไม่อยากปวดหัวกับการเคลียร์ภาษีด้วยตัวเอง และอยากได้ค่าขนส่งที่ประหยัดกว่าในระยะยาว FujiKing คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
ตัวอย่างจากเว็บ FujiKing
* โดยค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ (เก็บตามจริง) เช่น ค่าขนส่งภายในประเทศญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับร้านค้า ของสินค้าที่ลูกค้าทำการประมูล หรือสั่งซื้อ และ ค่าไปรษณีย์ หรือค่าขนส่งในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างโกดัง FujiKing / สถานที่การจัดส่ง หรือรูปแบบการจัดส่ง
เปรียบเทียบความแตกต่างบริการยอดนิยมอื่นๆ
ช่องทางขนส่งหลักจากญี่ปุ่นมาไทยที่เหมาะสม
เวลาและความรวดเร็วผ่านช่องทางและตัวกลางที่เหมาะสม
- ถ้าต้องการ เร็ว + ปลอดภัย → Air (เหมาะกับแบรนด์เนม, มือถือ, Gadget)
- ถ้าต้องการ ถูก + ไม่รีบ → Sea (เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่, ลังของสะสม)
- ถ้าซื้อ ของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเว็บญี่ปุ่น → Consolidate Shipping (เหมาะสุด)
เปรียบเทียบความน่าสนใจของแต่ละช่องทาง
สิ่งที่ต้องรู้ ! เมื่อเลือกใช้ช่องทางขนส่งเหล่านี้
- ซื้อของได้หลากหลายเว็บ (รวมถึง Auction/Mercari)
- มีค่าบริการตัวกลาง และค่าจัดส่ง 2 ชั้น (ญี่ปุ่น→โกดัง, โกดัง→ไทย)
ตัวอย่างชิปปิ้งสินค้าจากญี่ปุ่นมายังไทย เฉพาะทางเรือ (Sea Freight)
การสั่งของจากญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยาก แค่เลือกตัวกลางที่เหมาะสมกับคุณ
พิจารณาเลือกวิธีที่เหมาะกับงบประมาณ ความเร็ว และความสะดวกของคุณได้เลย
- ถ้าซื้อไม่เยอะ และเว็บรับส่งไทย ให้ “สั่งตรง” ง่ายสุด
- ถ้ามีหลายเว็บ/auction ให้ “ใช้ตัวกลาง”
- ถ้าอยากไม่ยุ่งยาก ใช้ “พรีออเดอร์ในไทย”
- ถ้าซื้อจากหลายเว็บเยอะ อยากประหยัดค่าส่ง ให้ใช้ “forwarder” แล้วรวมกล่อง
- และสุดท้าย สำหรับบริการของ Fujiking เมื่อต้องการสั่ง-ประมูล พร้อมขนส่ง เคลียร์ภาษีให้รอรับได้เลยที่บ้าน
เหตุผลที่ FujiKing ถึงนิยมสำหรับคนไทย
- ต้องการประมูลเองแบบอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่อยากรอเจ้าหน้าที่
สินค้าชิ้นใหญ่–หนัก ไม่รีบรับ ใช้ส่งทางเรือคุ้มค่า - ชอบระบบ Noti ติดตามสินค้า ผ่าน LINE และชำระผ่าน QR Code ง่ายๆ ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่อนุมัติ เน้นความสะดวกในการกดประมูลเอง 24 ชม. และรับได้ใน 1–1.5 เดือน
- แนะนำสินค้า และระบบการบริการแปลภาษา ช่วยเหลือและให้คำแนะนำ รวมถึงจัดการเรื่องภาษีนำเข้าครบวงจร
- มีเจ้าหน้าที่ ที่สามารถพูดคุยภาษาญี่ปุ่น กับทางร้านค้าได้โดยตรง
👉 พร้อมเริ่มสั่งของญี่ปุ่นกับ FujiKing ครบจบในที่เดียวได้แล้ววันนี้ ปรึกษาฟรี! >> มือใหม่สนใจสมัครใช้งาน FujiKing